
หลายต่อหลายคน ต้องการออกจากบ้านเพื่อไปอาศัยในคอนโดมิเนียม หรือห้องชุด เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางหรือความเป็นอิสระในหลายอย่าง แต่ก่อนที่จะออกไปอยู่คอนโดมิเนียมเอง มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ควรทราบ วันนี้ CMC Group มี 8 สิ่งที่ควรรู้ก่อนออกไปอยู่คอนโดมาฝากครับ
1. วางแผน
ตอนที่อยู่บ้านเราอาจจะไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย หากมีอะไรชำรุดก็เรียกช่างมาซ่อมโดยที่ค่าใช้จ่ายส่วนนั้นเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ เมื่อถึงเวลาที่ต้องออกไปอยู่คอนโดมิเนียม และต้องใช้ใช้ชีวิตคนเดียว สิ่งที่ควรคิดถึง นอกจากการแต่งห้องให้สวยงามแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าที่พักและค่าบำรุงซ่อมแซมอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมท่อประปา สายไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่น ซึ่งหากเกิดความเสียหาย ก็ต้องเป็นผู้ดูแลด้วยตัวเอง
1. วางแผน
ตอนที่อยู่บ้านเราอาจจะไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย หากมีอะไรชำรุดก็เรียกช่างมาซ่อมโดยที่ค่าใช้จ่ายส่วนนั้นเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ เมื่อถึงเวลาที่ต้องออกไปอยู่คอนโดมิเนียม และต้องใช้ใช้ชีวิตคนเดียว สิ่งที่ควรคิดถึง นอกจากการแต่งห้องให้สวยงามแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าที่พักและค่าบำรุงซ่อมแซมอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมท่อประปา สายไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่น ซึ่งหากเกิดความเสียหาย ก็ต้องเป็นผู้ดูแลด้วยตัวเอง
2. ออมเงิน
นอกจากจะเก็บเงินเพื่ออนาคตของตัวเองแล้ว ยังต้องออมเงินเพื่อห้องในอนาคตของอีกด้วย หาเป็นกรณีที่ต้องเช่าคอนโดมิเนียมอยู่เพราะเจ้าของห้องพักหรือเจ้าของบ้านนั้น อาจจะขอขึ้นค่าเช่าก็ได้ ฉะนั้นคุณก็ควรมีเงินสำรองไว้ในส่วนนี้ด้วย นอกจากนี้คุณควรเผื่อค่าใช้จ่ายเอาไว้ในกรณีที่คุณต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าห้อง ทั้งเตียงนอน ตู้ และโต๊ะ หากไม่มีเงินสำรองเอาไว้ ต่อให้ทำเลดี ใกล้ที่ทำงานแค่ไหน สุดท้ายคุณก็ต้องตัดใจอยู่ดี
3. สัญญาเช่า
หลาย ๆ คนอาจจะเซ็นสัญญาเช่าโดยที่ไม่อ่านเนื้อความข้างในสักนิด เพราะคิดว่าคงไม่มีเนื้อหาอะไรมาก นอกจากข้อห้ามต่าง ๆ เหมือนกับที่พักอื่นๆ ทั่วไป แต่รู้หรือเปล่า ว่ามันอันตรายมาก หากโชคร้ายเจอกับเจ้าของคอนโดมิเนียม ที่คิดไม่ซื่ออาจทำให้คุณเสียเปรียบได้โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นก่อนเซ็นสัญญาเช่าคุณควรอ่านเนื้อหาให้ละเอียด อย่างเข้าใจและจดจำให้แม่น เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง เสียเวลาสักนิด ดีกว่ามานั่งเสียใจภายหลังนะคะ
4. เพื่อนร่วมห้อง
คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจหรอกนะ ดังนั้นก่อนจะชวนใครมาอยู่ด้วยกัน ก็ควรศึกษานิสัยใจคอกันให้ดี ถึงแม้จะเป็นเพื่อนของคุณเองก็ตาม เพราะคุณกับเพื่อนอาจจะทะเลาะกันหลังจากที่ย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วก็ได้ แต่ถ้าคุณตัดสินใจที่จะอยู่ร่วมกับเพื่อนของคุณหรือใครก็ตามล่ะก็ ควรทำข้อตกลง และพูดคุยกันไว้ก่อนดีกว่า เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันจะได้ไม่มีปัญหาตามมา
3. สัญญาเช่า
หลาย ๆ คนอาจจะเซ็นสัญญาเช่าโดยที่ไม่อ่านเนื้อความข้างในสักนิด เพราะคิดว่าคงไม่มีเนื้อหาอะไรมาก นอกจากข้อห้ามต่าง ๆ เหมือนกับที่พักอื่นๆ ทั่วไป แต่รู้หรือเปล่า ว่ามันอันตรายมาก หากโชคร้ายเจอกับเจ้าของคอนโดมิเนียม ที่คิดไม่ซื่ออาจทำให้คุณเสียเปรียบได้โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นก่อนเซ็นสัญญาเช่าคุณควรอ่านเนื้อหาให้ละเอียด อย่างเข้าใจและจดจำให้แม่น เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง เสียเวลาสักนิด ดีกว่ามานั่งเสียใจภายหลังนะคะ
4. เพื่อนร่วมห้อง
คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจหรอกนะ ดังนั้นก่อนจะชวนใครมาอยู่ด้วยกัน ก็ควรศึกษานิสัยใจคอกันให้ดี ถึงแม้จะเป็นเพื่อนของคุณเองก็ตาม เพราะคุณกับเพื่อนอาจจะทะเลาะกันหลังจากที่ย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วก็ได้ แต่ถ้าคุณตัดสินใจที่จะอยู่ร่วมกับเพื่อนของคุณหรือใครก็ตามล่ะก็ ควรทำข้อตกลง และพูดคุยกันไว้ก่อนดีกว่า เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันจะได้ไม่มีปัญหาตามมา
5. ของใช้ส่วนตัว
ไม่ว่าคุณจะผูกพันกับสิ่งของต่างๆ ภายในบ้านมากแค่ไหน หากสิ่งใดไม่จำเป็นก็ควรตัดใจทิ้งไว้ที่บ้านจะดีกว่า เพราะห้องพักส่วนใหญ่นั้นมีพื้นที่ไม่เพียงพอที่จะเก็บของของคุณได้ทั้งหมด พวกของใช้ส่วนตัวอย่างเช่น สบู่ ยาสีฟัน ฯลฯ ควรซื้อใหม่ดีกว่า ส่วนเสื้อผ้าและของอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องติดตัวมามากนักก็ได้ ยิ่งเป็นสาวกการช้อปปิ้งด้วยแล้ว เหลือพื้นที่สำหรับของที่คุณจะซื้อเข้ามาเพิ่มจะดีกว่า แถมยังช่วยลดภาระตอนขนย้ายได้อีกด้วย
6. ทำความสะอาด
อย่าลืมทำความสะอาดห้องเก่าของคุณก่อนจะย้ายออกไปอยู่คอนโดมิเนียมให้เรียบร้อย ฝุ่นตามมุมห้อง คราบสกปรกในห้องน้ำ และนำของที่คุณไม่ใช้แล้วออกไปทิ้ง เว้นห้องไว้สำหรับใช้ประโยชน์อื่นๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นห้องนอนแขก หรือห้องแต่งตัวก็ได้ ที่สำคัญจะได้ไม่กลับมาเป็นภาระให้คนในบ้าน ส่วนห้องใหม่ที่คุณจะเข้าไปอยู่ก็ควรทำความสะอาดก่อนสักหนึ่งรอบ เพื่อสุขภาพอนามัยของคุณเอง
ไม่ว่าคุณจะผูกพันกับสิ่งของต่างๆ ภายในบ้านมากแค่ไหน หากสิ่งใดไม่จำเป็นก็ควรตัดใจทิ้งไว้ที่บ้านจะดีกว่า เพราะห้องพักส่วนใหญ่นั้นมีพื้นที่ไม่เพียงพอที่จะเก็บของของคุณได้ทั้งหมด พวกของใช้ส่วนตัวอย่างเช่น สบู่ ยาสีฟัน ฯลฯ ควรซื้อใหม่ดีกว่า ส่วนเสื้อผ้าและของอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องติดตัวมามากนักก็ได้ ยิ่งเป็นสาวกการช้อปปิ้งด้วยแล้ว เหลือพื้นที่สำหรับของที่คุณจะซื้อเข้ามาเพิ่มจะดีกว่า แถมยังช่วยลดภาระตอนขนย้ายได้อีกด้วย
6. ทำความสะอาด
อย่าลืมทำความสะอาดห้องเก่าของคุณก่อนจะย้ายออกไปอยู่คอนโดมิเนียมให้เรียบร้อย ฝุ่นตามมุมห้อง คราบสกปรกในห้องน้ำ และนำของที่คุณไม่ใช้แล้วออกไปทิ้ง เว้นห้องไว้สำหรับใช้ประโยชน์อื่นๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นห้องนอนแขก หรือห้องแต่งตัวก็ได้ ที่สำคัญจะได้ไม่กลับมาเป็นภาระให้คนในบ้าน ส่วนห้องใหม่ที่คุณจะเข้าไปอยู่ก็ควรทำความสะอาดก่อนสักหนึ่งรอบ เพื่อสุขภาพอนามัยของคุณเอง
7. อาหาร
ที่พักหลาย ๆ แห่งอาจจะห้ามทำอาหารภายในที่พัก เพื่อป้องกันอัคคีภัย ที่เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือแก๊สหุงต้มระเบิด ดังนั้นจะพบว่าชาวหอพักส่วนใหญ่นิยมซื้ออาหารเข้ามารับประทาน ทั้งสะดวกและประหยัดเวลา แต่ถ้าคุณอยากประหยัดเงินด้วยการทำอาหารเอง ก่อนจะทำสัญญาหรือวางเงินมัดจำ คุณควรถามเจ้าของที่พักให้มั่นใจเสียก่อนว่าสามารถประกอบอาหารบนหอพักได้หรือเปล่า
8. ข้าวของเครื่องใช้
ไม่จำเป็นต้องซื้อเก็บไว้ล่วงหน้า ลองมองหาของภายในบ้านดูก่อน เช่น พวกจานชาม อุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ หากที่บ้านของคุณมีก็สามารถนำไปใช้ได้ เพราะถือเป็นของจำเป็นอย่างหนึ่งเช่นกัน แล้วค่อยซื้อเพิ่มตอนที่คุณย้ายเข้าไปอยู่แล้วก็ได้ เพราะในเวลานั้นคุณเช็คได้ว่ามีสิ่งของอะไรที่คุณต้องซื้อเพิ่มบ้าง นอกจากจะได้ความสะดวกแล้ว ยังประหยัดเงินในกระเป๋าของอีกด้วย
นอกจากนี้แล้วควรคำนึงถึงความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมของที่พักด้วย โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องอาศัยอยู่คนเดียว นอกจากข้อมูลในอินเทอร์เน็ตแล้ว ควรจะออกไปดูสถานที่จริงด้วย เพื่อให้เกิดการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพียงเท่านี้ก็จะสามารถตัดสินใจว่าเราพร้อมที่จะอยู่คอนโมิเนียมแล้วหรือยัง
ที่พักหลาย ๆ แห่งอาจจะห้ามทำอาหารภายในที่พัก เพื่อป้องกันอัคคีภัย ที่เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือแก๊สหุงต้มระเบิด ดังนั้นจะพบว่าชาวหอพักส่วนใหญ่นิยมซื้ออาหารเข้ามารับประทาน ทั้งสะดวกและประหยัดเวลา แต่ถ้าคุณอยากประหยัดเงินด้วยการทำอาหารเอง ก่อนจะทำสัญญาหรือวางเงินมัดจำ คุณควรถามเจ้าของที่พักให้มั่นใจเสียก่อนว่าสามารถประกอบอาหารบนหอพักได้หรือเปล่า
8. ข้าวของเครื่องใช้
ไม่จำเป็นต้องซื้อเก็บไว้ล่วงหน้า ลองมองหาของภายในบ้านดูก่อน เช่น พวกจานชาม อุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ หากที่บ้านของคุณมีก็สามารถนำไปใช้ได้ เพราะถือเป็นของจำเป็นอย่างหนึ่งเช่นกัน แล้วค่อยซื้อเพิ่มตอนที่คุณย้ายเข้าไปอยู่แล้วก็ได้ เพราะในเวลานั้นคุณเช็คได้ว่ามีสิ่งของอะไรที่คุณต้องซื้อเพิ่มบ้าง นอกจากจะได้ความสะดวกแล้ว ยังประหยัดเงินในกระเป๋าของอีกด้วย
นอกจากนี้แล้วควรคำนึงถึงความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมของที่พักด้วย โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องอาศัยอยู่คนเดียว นอกจากข้อมูลในอินเทอร์เน็ตแล้ว ควรจะออกไปดูสถานที่จริงด้วย เพื่อให้เกิดการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพียงเท่านี้ก็จะสามารถตัดสินใจว่าเราพร้อมที่จะอยู่คอนโมิเนียมแล้วหรือยัง
เรียบเรียง : ฤทธิ์ษณะ น้อยกมล
แหล่งข้อมูล: home.kapook.com
บทความอื่นๆน่าสนใจ
- 8 สิ่งที่ควรรู้ก่อนออกไปอยู่คอนโดด้วยตัวเอง
- 10 ข้อแนะนำ ก่อนซื้อบ้าน-คอนโดหลังแรก
- 9 ข้อควรคำนึง ก่อนเช่าคอนโด
- ไอเดียเก็บจักรยานแบบประหยัดพื้นที่ ตอน ติดผนังในลานจอดรถ
- แบบห้องทำงาน สไตล์โมเดิร์น
- ตกแต่งคอนโดมิเนียม แบบดูเพล็กซ์ ด้วยโทนสีขาวดำ
- DIY ชั้นวางของ ทำง่ายๆ จากวัสดุที่มีในบ้าน
- 6 เหตุผลที่ควรลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก่อนอายุ 30 ปี
- ตรวจสอบความพร้อมก่อนที่จะเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียม
- ค่าใช้จ่ายทางการเงิน สำหรับการซื้อห้องชุดคอนโดฯ
- เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อบ้าน
- กำจัดกลิ่นในตู้เย็น
- 10 ข้อแนะนำ ก่อนซื้อบ้าน-คอนโดหลังแรก
- 9 ข้อควรคำนึง ก่อนเช่าคอนโด
- ไอเดียเก็บจักรยานแบบประหยัดพื้นที่ ตอน ติดผนังในลานจอดรถ
- แบบห้องทำงาน สไตล์โมเดิร์น
- ตกแต่งคอนโดมิเนียม แบบดูเพล็กซ์ ด้วยโทนสีขาวดำ
- DIY ชั้นวางของ ทำง่ายๆ จากวัสดุที่มีในบ้าน
- 6 เหตุผลที่ควรลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก่อนอายุ 30 ปี
- ตรวจสอบความพร้อมก่อนที่จะเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียม
- ค่าใช้จ่ายทางการเงิน สำหรับการซื้อห้องชุดคอนโดฯ
- เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อบ้าน
- กำจัดกลิ่นในตู้เย็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น