หลายคนที่กำลังประสบปัญหาการผ่อนบ้าน ที่ผ่อนไปทุกเดือน ผ่อนแบบใช้เวลาแสนยาวนาน ใจจดใจจ่ออยากให้หมดหนี้ไวๆ แต่ทำม๊ายยยถึงไม่หมดสักที นั่นเพราะคุณไม่รู้เทคนิค! ไปอ่านเจอบทความวิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็วขึ้น ซึ่งค่อนข้างเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่กำลังประสบชะตากรรมผ่อนบ้านไม่รู้จักจบจักสิ้น! ลองอ่านดูไว้เป็นแนวทางนะคะ อาจช่วยคุณได้..
ยกตัวอย่าง.. ซื้อบ้านราคา 3 ล้าน ผ่อนเดือนละ 18,000 บาท มีวิธการให้ผ่อนหมดเร็วๆ ได้อย่างไรบ้าง ?
ถามกันแบบนี้ ถ้าทะลึ่งตอบตรงๆว่า "ก็รีบปิดรีบโปะ จะได้หมดเร็วหมดไว" คงจะโกรธกันน่าดู
แต่จะว่าไปนั่นก็เป็นวิธีการเดียวที่จะทำให้หนี้บ้านหมดได้เร็วได้ไวสมดังใจ ก็คิดเอาง่ายๆ คุณยืมเงินเพื่อนสักคนมา 3 ล้าน ถามว่าวิธีการทำให้หนี้ที่ค้างเพื่อนไว้หมดไวที่สุดต้องทำยังไง
ไม่มีคำตอบอื่น นอกจากรีบเอาเงินไปคืนเขาให้หมดโดยเร็วที่สุด
แต่ก็ใช่ว่าจะรีบโปะรีบเทโดยไม่มีแผนเลย เพราะการเร่งเอาเงินก้อนไปชำระหนี้บ้าน อาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงิน (ไม่พอใช้) รวมถึงแผนการเงินอื่นๆในชีวิตคุณได้ ดังนั้นจะโปะ จะปิด มันก็ต้องมีหลักการกันสักนิดนึง
จากโจทย์ที่ให้มา บ้านราคา 3,000,000 บาท ส่งเดือนละ 18,000 บาท คาดว่าคุณคงทำสัญญากู้ยืมยาว 30 ปี ที่อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยราว 6 เปอร์เซ็นต์
สำหรับแนวทางผ่อนชำระเพิ่มเพื่อให้หนี้หมดเร็วนั้น สามารถทำได้ 2 ทางด้วยกัน คือ ชำระเพิ่มเป็นจำนวนเท่าๆกันทุกเดือน หรือชำระเป็นเงินก้อนใหญ่คราวละมากๆ
เรามาดูกันที่แนวทางแรกกันก่อน
1. ผ่อนชำระเพิ่ม เป็นจำนวนเท่าๆกันในแต่ละเดือน
จากข้อมูลที่ส่งมา ปัจจุบันคุณส่งบ้านเดือนละ 18,000 บาท สมมติคุณวางแผนที่จะส่งเพิ่มอีกเดือนละ 10% หรือ 1,800 บาท (ถ้ากลัวจำลำบากเพิ่มเป็น 2,000 บาทก็ได้ครับไม่ผิดกติกา) รวมแล้วเดือนๆหนึ่งคุณส่งบ้านเดือนละ 19,800 บาท
ในกรณีบ้านของคุณจะผ่อนชำระหมดภายในระยะเวลา 22 ปี กับอีก 10 เดือน โดยประมาณ หมดเร็วขึ้น 7 ปีเศษแหน่ะ แถมยังลดดอกเบี้ยลงได้ร่วมๆ 1 ล้านบาท
ทั้งนี้ถ้าอยากเร็วขึ้น ก็อาจปรับส่วนเพิ่มให้มากขึ้นอีกก็ได้ ถ้าไหว
2. ผ่อนชำระเพิ่มอีก 1 เดือน
วิธีคิดในแนวทางที่สองก็คือ 1 ปี เราส่งบ้าน 13 เดือน แทนที่จะเป็น 12 เดือน ซึ่งอาจจะใช้ช่วงโบนัสออก หรือเมื่อไหร่ก็ตามที่ได้เงินก้อน จะโปะเวลาไหน ช่วงใดของปีก็ได้ ได้ผลไม่ต่างกัน
จากข้อมูลที่ส่งมา สมมติ คุณส่งค่าบ้านเพิ่มเป็น 2 เดือน ในเดือนธันวาคมของทุกปี (เดือนอื่นส่งปกติ) พูดง่ายๆ เดือนอื่นส่งเดือนละ 18,000 บาท แต่เดือนธันวาคมส่ง 36,000 บาทซะเลย
ในกรณีบ้านของคุณจะผ่อนชำระหมดภายในระยะเวลา 23 ปี กับอีก 10 เดือน เร็วขึ้นร่วม 7 ปี เหมือนกัน และลดดอกเบี้ยลงได้ร่วมๆ 8 แสนกว่าบาท
ทำไม? วิธีแรก ถึงหมดเร็วกว่า และลดดอกเบี้ยได้มากกว่า
ไม่มีอะไรมาก เพราะวิธีแรกนั้น เราตัดต้นไปทุกเดือน แม้จะนิดหน่อยแค่ 1,800 บาทก็ตาม เมื่อต้นลดลงทุกเดือน เวลาก็สั้นลง ดอกเบี้ยก็ลดลงตามไปด้วยเท่านั้นเอง
ทีนี้หากใครอยากผ่อนบ้านหมดเร็วกว่าในตัวอย่างที่ได้นำเสนอ ก็สามารถปรับแผนการผ่อนชำระของคุณได้ ก็อย่างที่บอก ยิ่งโปะเยอะก็ยิ่งหมดเร็ว
หัวใจสำคัญของวิธีการข้างต้นก็คือ กรุณาบอกธนาคารด้วยว่า เงินที่คุณนำฝากเข้าไปเพิ่มนั้น เพื่อต้องการตัดเงินต้นที่เป็นหนี้บ้านอยู่ อย่าไปนำฝากเข้าไปในบัญชีออมทรัพย์เฉยๆ เพราะถ้าไม่บอกธนาคาร เขาก็จะตัดยอด 18,000 บาทเหมือนเดิม ต้องบอกด้วยว่าจะตัดหนี้ด้วยยอด 19,800 บาท (กรณีรายเดือน) และ 36,000 บาท (กรณีรายปี)
มิฉะนั้น จะไม่เกิดผลลัพธ์ในแบบที่ต้องการนะจะหาว่าไม่เตือน
อย่างไรก็ดี อย่าเร่งการผ่อนชำระมากเสียจนแผนการเงินในชีวิตประจำวันเสียหาย
สำหรับท่านที่ห่วงเรื่องดอกเบี้ย ไม่อยากเสียดอกเบี้ยเยอะ อีกแนวทางหนึ่งที่พอจะทำได้เหมือนกัน ก็คือ การรีไฟแนนซ์บ้าน
การรีไฟแนนซ์ ก็เหมือนการทำสัญญากู้ยืมเงินกันใหม่ โดยเราสามารถทำสัญญาใหม่ได้ หลังจากผ่อนชำระเกิน 3 ปีไปแล้ว (อันนี้ต้องดูเงื่อนไขจดจำนองของแต่ละธนาคารอีกที)
ถ้าปัจจุบันบ้านที่เราผ่อนอยู่นั้นมีอัตราดอกเบี้ยที่สูง ท่านก็อาจพิจาณาขอรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารเดิม หรือธนาคารใหม่ (กดดันธนาคาเดิมที่ใช้อยู่ 555) เพื่ออัตราดอกเบี้ยใหม่ที่ต่ำกว่า
บางท่านอาจบอกว่า วิธีการนี้จะทำให้ระยะเวลาผ่อนชำระยาวออกไปอีก อันนี้ต้องบอกว่าไม่จริง ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเราจะตกลงกับธนาคาร สัญญาบนโลกนี้เขียนยังไงก็ได้ ตราบใดที่สองฝั่งคู่สัญญายอมรับและไม่ผิดกฎหมาย
สำคัญ คือ การร่นเวลาผ่อนชำระในสัญญาใหม่จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของเรา ถ้าไม่ติดปัญหาตรงนี้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
บ้านน้ันถ้าผ่อนหมดเป็นของเราเร็วๆได้ก็ดี แต่ถ้าการเพิ่มยอดส่ง ทำให้เป็นภาระเพิ่ม การรักษากติกาผ่อนชำระตามเงื่อนไขไปก่อน ก็เป็นเรื่องที่ไม่เสียหายจนเกินไปนัก
สิ่งสำคัญ คือ คุณทำบ้านของคุณ ให้เป็น "บ้าน" จริงๆ หรือเปล่า หรือเป็นแค่ที่พักเอาแรง เพื่อพรุ่งนี้จะได้ตื่นไปวิ่งไล่ตามหาเงินอีกครั้ง.
แหล่งข้อมูล : www.tnews.co.th
บทความอื่นๆน่าสนใจ
- เทคนิคดีๆ ผ่อนบ้านอย่างไรให้หมดเร็ว
- เทคนิคเลือกของแต่งคอนโด ตามหลักฮวงจุ้ย
- ฮวงจุ้ยดี บ้านมือสองก็มีโชคได้
- ไอเดียกั้นห้อง ไม่ง้ออิฐปูน
- แต่งห้องสวย ด้วยกรอบรูปสุดชิค
- เคล็ด (ไม่) ลับการจดทะเบียน นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร
- 4 วิธีประกาศขายบ้าน คอนโดออนไลน์ ให้ทำเงิน
- นอนหลับสบาย แค่จัดฮวงจุ้ยห้องนอน
- รูปปั้นสัตว์มงคลเสริมฮวงจุ้ย
- 6 คำถามน่ารู้ ก่อนทาบ้านสีพาสเทล
- ไอเดียเจ๋ง เปลี่ยนกระถางแตก ให้กลายเป็นสวนขนาดเล็ก
- ทำอย่างไร เมื่อผ่อนบ้านไม่ไหว ตอนจบ
- ทำอย่างไร เมื่อผ่อนบ้านไม่ไหว ตอนที่ 1
- 8 จุดทำความสะอาด เสริมสิริมงคล
- ฮวงจุ้ย เมืองสามหมอก
- วิธีลบคราบดินสอสีจากผนัง
- เคล็ดลับดูแลบ้านในหน้าฝน ให้อยู่ทน
- เคล็ดลับการเลือกซื้อคอนโด แบบไม่พลาด
- 9 สิ่งสำคัญ ก่อนซื้อคอนโด
- วิธีเลือกซื้อบ้าน ตามหลักฮวงจุ้ย
- 5 สิ่งของมีตำหนิควรกำจัด หากเก็บไว้อาจเกิดลางร้าย
- 4 ขั้นตอนทำความสะอาดกระเบื้อง
- เพิ่มสีสันห้องนั่งเล่นด้วย หมอนอิงสีสวย
- เตรียมความพร้อม 5 ข้อ ก่อนกู้ อนุมัติไว
- 7 เรื่องที่มักพลาด ในการประกาศขายบ้าน
- ฮวงจุ้ยกับห้องใต้ดิน
- ฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน
- เคล็ดลับ แก้รอยบุ๋มบนเฟอร์นิเจอร์ไม้
- 10 ไม้ดอกทนแดด ปลูกแล้วบ้านสวย
- ขายบ้านเก่าอย่างไร ให้ได้ราคา
- 5 เทคนิค ขายบ้านให้ง่ายขึ้น
- เสริมมงคล ด้วยการจัดห้องพระให้เหมาะสม (ตอนจบ)
- เสริมมงคล ด้วยการจัดห้องพระให้เหมาะสม (ตอนแรก)
- เคล็ดลับการตกแต่งระเบียงคอนโด เป็นพื้นที่สุดเก๋
- เทียนหอม ใช้อย่างไรให้หอม
- ลงทุนในคอนโด ปลอดภัย ไม่มีเสี่ยง
- ค่าใช้จ่าย กรณีเปลี่ยนสัญญาคอนโด
- ฮวงจุ้ยนาฬิกา ติดตรงไหนดีสุด
- พื้นที่บ้านมีรอยแตกร้าว ส่งผลต่อฮวงจุ้ย
- ไอเดียดีๆ เพิ่มสีสันให้ผนัง
- วิธีการดูแลโทรทัศน์ให้ใหม่กิ๊ง
- คอนโด ตอบโจทย์หลายข้อ
- 5 ข้อ ตรวจสอบก่อนซื้อคอนโดฯ (ที่ยังไม่สร้าง)
- ฮวงจุ้ยสวนหน้าบ้าน
- ฮวงจุ้ยคอนโด จัดอย่างไรให้ รุ่งเรือง
- เทคนิคการดูแลโซฟาตัวโปรด
- Built-in พังจะทำอย่างไร ?
- ของดีและข้อเสีย ของผนังอิฐมวลเผา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น